วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

คำถาม-คำตอบ
1. เพราะเหตุใด เวลาน้ำมันแพง ธุรกิจค้าปลีกจึงมี Margin
- ธุรกิจค้าปลีกน่าจะรักษา margin ได้ครับ  เพราะลูกค้ามีแต่รายเล็ก  จำนวนมากราย   จึงไม่มีอำนาจต่อรอง
  ดังนั้น  ค้าปลีกจะสามารถผลักภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นให้ลูกค้าได้เต็มๆ ส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้นคงมีบ้าง  เป็น
  ผลพลอยได้  แต่คงไม่ถึงกับมากนัก   เป็นผลจากการที่ margin เป็น % เท่าเดิม  แต่ margin เป็นตัวเงินเพิ่ม
  เช่น  ปกติ net margin 4%
  เดิม ขาย 100  กำไร 4 บาท 
  หากต้นทุนสินค้าเพิ่ม 10%  ขาย 110  กำไร 4% เท่าเดิม  แต่กำไรเป็นตัวเงินจะเป็น 4.4 บาท   ซึ่งเพิ่มขึ้น
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
2.หลักการบริหาพอร์ตแบบของผมน่ะครับ..(ที่จำๆ มาและท่องไว้ๆๆ)
สมมติ  คิดจะซื้อหุ้น 1 ตัวเพิ่มจากที่มีอยู่
สมมติว่า ประเมินมูลค่าที่ควรจะเป็นของมันได้ และสูงกว่าราคาที่ซื้อมา โดยมีส่วนเผื่อปลอดภัยประมาณ 20%
  หุ้น   จำนวน    EPS    SES   BV  Cost    Mrk.
  A      200       6        70   30     60      55
  B      300       2.5      25   10     15      16
  พอร์ต เป็นดังนี้
      ยอดขายทั้งสิ้น          14000+7500  =  21500  บาท
          ได้กำไร                1200+  750  =    1950  บาท
      ส่วนของจ้าของ           6000+3000  =    9000  บาท
          ต้นทุน                12000+4500  =  16500  บาท
          ราคาตลาด           11000+4800  =  15800  บาท
     ผลตอบแทน   P/E      15800 / 1950 =  8.1
                       P/BV    15800 / 9000 =  1.8
                       ROE       1950 / 9000 =  21.7%
            Yearly Return     1950 / 16500 = 11.8%
 หากเป็นเช่นนี้  ผมก็จะซื้อหุ้น ที่ เมื่อนำราคา และผลกำไรมาคิดรวมแล้วทำให้ ROE ผมสูงขึ้น Yr. Return ผมสูงขึ้น
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
3.สมมติว่าบริษัทมีหุ้นอยู่ 1,000,000 ล้านหุ้น 
มี Equity = 1,000,000 บาท 
มี Debt = 1,000,000 บาท 
เพราะฉะนั้น Total Asset = Debt + Equity = 2,000,000 บาท 

มูลค่าหุ้นทางบัญชี (Book Value) 
(1,000,000 / 1,000,000 = 1) ไม่นับหนี้
 หากปัจจุบันหุ้นของบริษัทนี้ซื้อขายกันอยู่ที่ราคา 4 บาท (P/BV = 1)
ถ้า BV มีค่าใกล้กับ Market price ของสินทรัพย์ในงบดุลของบริษัท ส่วน premium ในตลาดที่เกินมาคือ PV ของกำไรที่ตลาดคาดหวังในอนาคตเฉพาะในส่วนที่เกิน cost of capital 
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
4.การหาค่าเกี่ยวกับกระแสเงินสด มีความหมายว่าอย่างไร
- กระแสเงินสด คือเงินที่ บ ได้รับเข้ามาเป็นเงินสด หักที่จ่ายไปเป็นเงินสดจริง 
  มี 3ส่วน คือกระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุน จากการลงทุน จากการจัดหาเงินทุน
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
5.อัตราการเติบโตของกำไรมีส่วนสัมพันธ์กับอัตราการจ่ายปันผลยังไ 
ถ้าสัดส่วนหนี้สินต่อทุนไม่เปลี่ยนแปลงจะได้ว่า 
g = r x ROE 
g = อัตราการเติบโตของกำไร 
r = retention ratio = 1-เงินปันผล/กำไร 
ROE = return on equity = กำไรสุทธิ/ส่วนของเจ้าของ 


เช่น บริษัทที่กำไรเติบโตปีละ 15% และมี ROE 10% จะมี r = 66% อัตราเงินปันผลที่เหมาะสมของบริษัทควรจะอยู่ที 33% ของกำไรครับ 

ถ้าจ่ายออกมาน้อยกว่านี้แสดงว่าบริษัทอมเงิน ถ้าจ่ายมากกว่านี้แต่สามารถโตเท่าตามเป้า แสดงว่าพื้นฐานของบริษัทกำไรจะดีขึ้น (ROE กำลังเพิ่ม)

----------------------------------------------------------------------
6.บริษัทควรมีหนี้เงินกู้บ้าง เพราะอะไร ?
สมมติว่า บริษัท A ทำกำไรปีหนึ่งได้ 10 บาท แต่การที่จะทำอย่างนั้นได้ A ต้องการเงินทุนที่ 100 บาท ทีนี้กรณีแรกนะครับสมมติว่าทั้ง 100 บาทมาจากส่วนของผู้ถือหุ้นเท่านั้น ไม่มีหนี้เลย ROE1 = 10/100 = 10% ทีนี้นะครับสมมติว่าทุกอย่างเหมือนเดิมแต่คราวนี้บริษัท A กู้มา 50 บาท และใช้เงินในส่วนของผู้ถือหุ้น 50 บาท ROE จะเป็นเท่าไหร่ ROE2 =  10/50 = 20%

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น