อันดับแรก อารมณ์ต้องมั่นคง กว่านักลงทุนหน้าใหม่จะนิ่งแบบนี้ได้ ก็คงต้องจ่าย ”ค่าวิชา” ไปไม่มากก็น้อย สิ่งที่ยากที่สุดสิ่งหนึ่งในการลงทุนก็คือการที่จะอยู่ ”เฉยๆ” ให้ได้
อย่างที่สอง ต้องดูที่มูลค่าหุ้น ต้องหัดดูที่ ”มูลค่าหุ้น” ไม่ใช่ ”ราคาหุ้น”
อาจารย์เกรแฮมบอกเสมอว่า “Price is what you pay, Value is what you get”
“ราคาคือสิ่งที่คุณจ่าย แต่มูลค่าคือสิ่งที่คุณได้รับ” มูลค่าของหุ้นแต่ละตัวก็ขึ้นกับการตีความของแต่ละคน ดังนั้นให้คนสิบคนมาหา”มูลค่า”หุ้นตัวเดียวกันก็ได้สิบค่า นักลงทุนหน้าใหม่ก็ไม่ต้องไปกังวลเวลาหามูลค่าหุ้นออกมาแล้วไม่ตรงกับคนอื่น สิ่งที่สำคัญก็คือการเข้าใจในธุรกิจที่จะลงทุน สำคัญในการลงทุนคือ ขบวนการคิด ไม่ใช่สูตรสำเร็จ หลังจากนั้น ต้องหัดอย่าตกใจ เวลาเห็นหุ้นตกๆ ถ้าเป็นคนทั่วไปจะตกใจขวัญหนีดีฝ่อ ทำอะไรไม่ถูกแต่ถ้าใครเห็นหุ้นตกๆ แล้วอารมณ์ดี หัวเราะร่า แสดงว่าฝึกวิทยายุทธเข้าขั้นระดับหนึ่งแล้วถ้าระดับสูงขึ้นก็ต้องถ้าหุ้นตก หนักๆ แล้วควักเงินออกมาซื้อหุ้นหน้าตาเฉย เวลาเห็นหุ้นตกๆ ก็อย่าตกใจให้ตั้งสติ คิดถึงเหตุและผล คิดถึงสาเหตุของหุ้นตกนั้นเกี่ยวข้องกับหุ้นของบริษัทของเราหรือเปล่า ถ้าฝนตกแล้วทำให้ตลาดหุ้นตก ก็ยังมีบริษัททำร่มที่จะได้ประโยชน์จากราคาหุ้นที่ตกลงทั้งกระดาน ใครมีสติ และมีเหตุมีผลก็คงรับซื้อของลดราคาจากนายตลาดได้สนุกไปเลยทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าเป็น ”ชาวสวน” ทุกครั้งไปเพราะบางครั้งหุ้นตกก็อาจจะเป็นการตกจริงๆ ก็เป็นไปได้ เช่น หุ้นตกจาก 1,500 จุด ลงมาเหลือ 750 จุดก็บอกว่า”ถูกมาก”แล้ว เข้าไปช้อน ปรากฏว่าหุ้นตกต่อเหลือ 200 จุดลงขาดทุนไปมากกว่า 50%
สุดท้าย หัดคิดแบบปัจเจกบุคคล
นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเอง เวลาซื้อหุ้นมักจะถามความเห็นคนนั้นคนนี้ว่าซื้อดีหรือไม่ พอซื้อมาก็ไม่รู้ว่าจะขายตอนไหนดี เมื่อหุ้นปรับตัวลงก็เก็บหุ้นขาดทุนไว้เต็มพอร์ต อย่างนี้จะโทษใครนอกจากตัวเราเอง
บางคนก็มั่นใจในตัวเองเสียเหลือเกิน ไม่เคยฟังใคร มั่นใจในตนเองเต็มที่ คิดว่าสิ่งที่ตนคิดถูกต้อง 100% เสมอ เรียกว่าไม่มีวันถอยหลังถ้าตัดสินใจไปแล้ว สุดท้ายก็ต้องขาดทุน แบบนี้อันตรายทีเดียวเพราะบางครั้งเราต้องยอมรับว่าเราผิดพลาดได้ เพราะแม้แต่เซียนหุ้นอย่างจอร์จ โซรอส ยังยอมรับว่า ตนเองก็ผิดพลาดเป็น
ใครไม่ยอมรับว่าตนเองผิด แถมโทษคนอื่นหรือโทษสภาพแวดล้อม มักจะไม่ยอมปรับปรุงตัว สุดท้ายก็ทำผิดในเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ
ถ้าทำได้ตามที่ว่ามาทั้งทำอารมณ์ให้มั่นคง หามูลค่าให้เป็น อย่าตกใจง่าย ใช้เหตุและผลในการลงทุน เราก็จะได้ประโยชน์จาก ”นายตลาด” อย่างมาก ดังนั้นถ้านักลงทุนทั้งหลายตั้งสติให้ดี อย่าให้ ”ความโลภ” และ ”ความกลัว” เข้าครอบงำจิตใจ ท่านก็จะไม่กลายเป็นส่วนหนึ่งของ ”นายตลาด” เสียเอง
บางคนก็มั่นใจในตัวเองเสียเหลือเกิน ไม่เคยฟังใคร มั่นใจในตนเองเต็มที่ คิดว่าสิ่งที่ตนคิดถูกต้อง 100% เสมอ เรียกว่าไม่มีวันถอยหลังถ้าตัดสินใจไปแล้ว สุดท้ายก็ต้องขาดทุน แบบนี้อันตรายทีเดียวเพราะบางครั้งเราต้องยอมรับว่าเราผิดพลาดได้ เพราะแม้แต่เซียนหุ้นอย่างจอร์จ โซรอส ยังยอมรับว่า ตนเองก็ผิดพลาดเป็น
ใครไม่ยอมรับว่าตนเองผิด แถมโทษคนอื่นหรือโทษสภาพแวดล้อม มักจะไม่ยอมปรับปรุงตัว สุดท้ายก็ทำผิดในเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ
ถ้าทำได้ตามที่ว่ามาทั้งทำอารมณ์ให้มั่นคง หามูลค่าให้เป็น อย่าตกใจง่าย ใช้เหตุและผลในการลงทุน เราก็จะได้ประโยชน์จาก ”นายตลาด” อย่างมาก ดังนั้นถ้านักลงทุนทั้งหลายตั้งสติให้ดี อย่าให้ ”ความโลภ” และ ”ความกลัว” เข้าครอบงำจิตใจ ท่านก็จะไม่กลายเป็นส่วนหนึ่งของ ”นายตลาด” เสียเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น