วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

              การชนะประมูลนั้น  ไม่ได้แปลว่าบริษัทจะต้องมีกำไรเพิ่มในอนาคต  การชนะการประมูลนั้นหมายความเพียงว่าบริษัทจะมีโอกาสสร้างรายได้มากขึ้น  มีธุรกิจมากขึ้น  แต่ไม่ได้หมายความว่าบริษัทจะต้องมีกำไรเพิ่มขึ้น  หรือบริษัทจะมีกำไรเพิ่มขึ้นคุ้มค่ากับเงินที่จะต้องลงทุนเพิ่ม ม่มีใครบอกว่า  การ “ชนะ” การประมูลหรือแข่งขันดังกล่าวเป็นสิ่งที่เลวร้ายและจะทำให้บริษัทขาดทุนหรือจะเป็น  “หายนะ”  ของบริษัทในอนาคต  เหนือสิ่งอื่นใด  การที่ “หุ้นวิ่ง” ขึ้นไปทันทีนั้น  จะให้อธิบายได้อย่างไรว่าบริษัทกำลังจะเผชิญกับ “ภัยพิบัติ”  จากการชนะประมูล?
             การที่บริษัทชนะประมูลหรือชนะในการซื้อกิจการแข่งกับคนอื่นนั้น  ผมไม่ได้ถือว่ามันเป็นข่าวดีเสมอไป  ว่าที่จริงหลายครั้งผมคิดว่ามันเป็น “ข่าวร้าย” ของบริษัท  เพราะ “ราคา” ที่บริษัทเสนอที่จะจ่ายให้กับผู้ให้ใบอนุญาติหรือผู้จ้างหรือผู้ขายนั้น  “แพงเกินไป”  และถ้าเป็นอย่างนั้น  การ “ชนะ”  และทำให้รายได้ของบริษัทในอนาคตเพิ่มขึ้นก็ไม่เป็นประโยชน์   แต่กลับเป็นโทษเพราะทำให้กำไรต่อหุ้นของบริษัทลดลง  หรือในบางครั้งทำให้บริษัทขาดทุนและกลายเป็นหายนะได้  ปรากฏการณ์ที่บริษัท “ชนะ”  แต่กลับ  “พ่ายแพ้”  และเสียหายในภายหลังเนื่องจากการ  “จ่าย” หรือ  “ต้นทุน” ที่แพงเกินไปนี้เรียกกันว่า  “Winner’s Curse” หรือ  “คำสาปของผู้ชนะ
ลักษณะของ  ผู้ชนะที่จะ “ถูกสาป” นั้น   มักเกิดขึ้นกับกิจการที่เปิดขายหรือเปิดประมูลดังนี้
1.กิจการที่มีจำนวนจำกัดแต่มีคนต้องการมาก
2.กิจการมีความไม่แน่นอนในอนาคตสูงซึ่งทำให้การประเมินผลการดำเนินงานทำได้ยากและไม่แน่นอน
3.ถ้าการขายเป็นดีลที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวและผู้ขายกับผู้ซื้อไม่มีความสัมพันธ์ต่อเนื่อง  
4.ความ “อยากได้”  ของผู้ซื้อหรือผู้เข้าประมูลมีมากเนื่องจากเหตุผลบางอย่างที่ไม่ใช่เรื่องของธุรกิจล้วน ๆ มีสูงกว่าปกติ
 “ชนะ” ประมูลหรือชนะในการซื้อกิจการนั้น  เป็น  “ข่าวดี”  ที่สำคัญของหุ้นในตลาด  ดังนั้น  หลายบริษัทโดยเฉพาะที่ผู้บริหาร  “เล่น”  หุ้นของตนเองด้วยจึงมักมีความโน้มเอียงที่จะเอาชนะในการประมูลหรือซื้อกิจการ  เพราะนั่นหมายความว่าหุ้นจะขึ้นและเขาอาจจะได้ประโยชน์ในระยะเวลาอันสั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น